top of page

ติดเครดิตบูโรคืออะไร? เช็กง่าย แก้ได้ วางแผนดีไม่ต้องกลัวติดบูโร

  • เครดิตบูโรไม่ใช่แบล็กลิสต์ แต่คือประวัติการชำระหนี้ของเรา

  • การ “ติดบูโร” ส่วนใหญ่หมายถึงมีประวัติชำระล่าช้าต่อเนื่องจนเสี่ยงถูกปฏิเสธสินเชื่อ

  • เช็กเครดิตบูโรได้ง่าย ๆ ผ่านแอปหรือจุดบริการใกล้บ้าน

  • แก้สถานะได้ด้วยการปิดหนี้ ค้างชำระให้น้อยที่สุด และวางแผนการเงินใหม่

  • การมีวินัยทางการเงินช่วยให้คะแนนเครดิตดีขึ้น และเข้าถึงสวัสดิการหรือสินเชื่อได้ง่ายขึ้น

เครดิตบูโรคืออะไร?
เครดิตบูโรคืออะไร?

หลายคนกังวลว่าตัวเอง “ติดเครดิตบูโรหรือยัง” เพราะกลัวว่าจะขอสินเชื่อบ้าน รถ หรือสินเชื่อส่วนบุคคลไม่ผ่าน ความจริงแล้ว เครดิตบูโรคือศูนย์ข้อมูลประวัติหนี้ ไม่ใช่แบล็กลิสต์อย่างที่หลายคนเข้าใจผิด

บทความนี้จะพาไปเข้าใจว่า เครดิตบูโรคืออะไร, แบบไหนที่เรียกว่าเสี่ยง, วิธีเช็ก, วิธีแก้ และการวางแผนเพื่อไม่ให้สถานะเครดิตของเราเป็นปัญหาในอนาคต


เครดิตบูโร คืออะไร

เครดิตบูโร (Credit Bureau) คือศูนย์ข้อมูลประวัติการชำระหนี้ของคนไทย ทุกครั้งที่กู้เงิน สมัครบัตรเครดิต หรือผ่อนชำระ ข้อมูลจะถูกส่งมาเก็บที่นี่ สถาบันการเงินใช้ข้อมูลนี้พิจารณาว่าจะอนุมัติสินเชื่อให้หรือไม่

ในประเทศไทย เครดิตบูโรดำเนินการโดย บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (National Credit Bureau: NCB) ซึ่งรวบรวมข้อมูลประวัติการชำระหนี้ของเรา เช่น

  • บัตรเครดิต

  • สินเชื่อบ้าน

  • สินเชื่อรถ

  • สินเชื่อส่วนบุคคล

  • สินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพ

เครดิตบูโร ไม่ใช่ผู้ปล่อยกู้ และ ไม่ใช่คนที่มาบอกว่าเราติดแบล็กลิสต์ แต่เป็นเพียงฐานข้อมูลประวัติที่บอกว่าเรา “ชำระดีหรือไม่ดี” เท่านั้น


เครดิตบูโรมีอะไรบ้าง? ข้อมูลอะไรถูกเก็บ

เครดิตบูโรเก็บข้อมูล 5 ประเภทหลัก ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลสินเชื่อและวงเงิน ประวัติการชำระเงิน สถานะบัญชี และประวัติการขอสินเชื่อ (Inquiry ) โดยข้อมูลจะถูกเก็บย้อนหลัง 36 เดือน


รายละเอียดข้อมูลที่เครดิตบูโรจัดเก็บ:

ประเภทข้อมูล

รายละเอียด

1. ข้อมูลส่วนบุคคล

ชื่อ-นามสกุล, เลขบัตรประชาชน, วันเกิด, ที่อยู่ปัจจุบัน

2. ข้อมูลสินเชื่อ

ประเภทสินเชื่อ, วงเงินที่ได้รับอนุมัติ, ยอดคงเหลือ, วันที่เปิดบัญชี

3. ประวัติการชำระ

จ่ายตรงเวลา, ล่าช้ากี่วัน, ค้างชำระกี่งวด (แสดงย้อนหลัง 36 เดือน)

4. สถานะบัญชี

ปกติ, ปิดบัญชี, NPL (ค้างชำระเกิน 90 วัน), ปรับโครงสร้างหนี้

5. Inquiry

ประวัติการขอสินเชื่อ - สถาบันไหนเคยเรียกดูข้อมูลบ้าง

ติดบูโร คืออะไร? แบบไหนถึงเรียกว่า "ติด"

มาถึงคำถามสำคัญ "ติดบูโร คืออะไร?" จริงๆ แล้วคำว่า "ติดบูโร" ไม่มีในระบบอย่างเป็นทางการ แต่ ติดบูโร คือการมีประวัติชำระหนี้ไม่ดีในระบบเครดิตบูโร ซึ่งรวมถึงสถานะเหล่านี้:

  • ค้างชำระเกิน 90 วัน (NPL) 

  • ผิดนัดชำระต่อเนื่องหลายงวด

  • มียอดค้างชำระที่ไม่ถูกปิด

  • ปิดหนี้แล้วแต่เพิ่งปิดไม่นาน ทำให้ประวัติยังแสดงข้อมูลย้อนหลัง 36 เดือน

สถานการณ์เหล่านี้ทำให้ธนาคารมองว่าเรามีความเสี่ยงสูง และอาจส่งผลให้ขอสินเชื่อใหม่ไม่ผ่าน

ติดบูโรกับติดแบล็กลิสต์ ความแตกต่างที่ต้องรู้
ติดบูโรกับติดแบล็กลิสต์ ความแตกต่างที่ต้องรู้

ติดแบล็กลิสต์ VS. ติดเครดิตบูโร ต่างกันยังไง?

หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องเดียวกัน แต่จริง ๆ ต่างกันชัดเจน:

ติดเครดิตบูโร

คือมี ประวัติการชำระไม่ดี เช่น ค้างชำระ ล่าช้าหลายงวด ไม่ได้แปลว่ารับสินเชื่อไม่ได้ แต่ “มีความเสี่ยง” ที่จะถูกพิจารณาเข้มงวดขึ้น

ติดแบล็กลิสต์

คือสถานะที่ ธนาคารหรือสถาบันการเงินกำหนดเอง ว่าลูกค้ารายนี้ความเสี่ยงสูงมาก ไม่ควรอนุมัติ เป็นนโยบายของแต่ละที่ ไม่ได้อยู่ในเครดิตบูโร เช่น ลูกหนี้ที่เป็น NPL หนัก ๆ ถูกฟ้อง ถูกยึดทรัพย์ เป็นต้น


วิธีเช็กเครดิตบูโรด้วยตัวเองง่าย ๆ

คุณสามารถเช็กสถานะเครดิตของตัวเองได้หลายวิธี:

1) เช็กผ่านแอป “เครดิตบูโร”

  • โหลดแอป "NCB Credit Report" จาก App Store หรือ Play Store

  • ยืนยันตัวตนผ่าน NDID (Digital ID)

  • ชำระค่ารายงาน (ประมาณ 100-150 บาท)

  • รอรับผลภายในไม่กี่นาที

2) เช็กที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส / บิ๊กซี / ไปรษณีย์

  • ยื่นบัตรประชาชน

  • ชำระค่ารายงาน

  • รอรับผลทางไปรษณีย์ภายใน 7–14 วัน

3) เช็กที่ธนาคาร / จุดบริการเครดิตบูโร

เหมาะสำหรับคนต้องการผลรวดเร็วในวันเดียว สามารถเดินทางไปที่สำนักงาน NCB หรือจุดบริการตามธนาคารที่ร่วมรายการ

สถานะเครดิตบูโร ที่ควรรู้
สถานะเครดิตบูโร ที่ควรรู้

สถานะเครดิตบูโร ที่ควรรู้

สถานะ

ความหมาย

ผลกระทบต่อการกู้

ปกติ

ชำระดี ไม่มีค้าง

กู้ได้ปกติ ✓

ค้างชำระ 30 วัน

เริ่มมีความเสี่ยงเล็กน้อย

อาจถูกพิจารณาเข้มงวดขึ้น

ค้างชำระ 60 วัน

ความเสี่ยงปานกลาง

โอกาสถูกปฏิเสธสูงขึ้น

NPL (ค้างเกิน 90 วัน)

เข้ากลุ่มผิดนัดชำระ/หนี้เสีย

มีโอกาสถูกปฏิเสธสูงมาก

ปิดบัญชีแล้ว

ชำระครบ แต่ข้อมูลยังแสดง 36 เดือน

กู้ได้ แต่ดูประวัติย้อนหลังด้วย

ปรับโครงสร้างหนี้

ธนาคารช่วยจัดแผนใหม่

ยังถือว่าเสี่ยง แต่มีทางออก

⚠️ หมายเหตุ: สถานะ NPL (ค้างชำระเกิน 90 วัน) ไม่เพียงทำให้กู้ยากขึ้น แต่ยังเสี่ยงถูกเจ้าหนี้ฟ้องร้องดำเนินคดีได้ อ่านเพิ่มเติม: [เป็นหนี้เท่าไหร่ถึงโดนยึดทรัพย์]


ติดเครดิตบูโร มีวิธีแก้อย่างไร

✔ รีบปิดหนี้ที่ค้างชำระ

ยิ่งปล่อยนานยิ่งกระทบหนัก

✔ จ่ายให้ตรงเวลาในงวดต่อ ๆ ไป

ธนาคารดูนิสัยการชำระต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่งวดเดียว

✔ คุยกับเจ้าหนี้เพื่อทำแผนปรับโครงสร้างหนี้

หากยังไม่พร้อมชำระเต็ม ให้เจรจาเพื่อลดภาระรายเดือน

✔ ให้เวลาประวัติดีค่อย ๆ ฟื้นตัว

ข้อมูลแสดงย้อนหลัง 36 เดือน แต่ถ้าประวัติใหม่ดี ก็ช่วยให้คะแนนปรับดีขึ้นได้

✔ ใช้สวัสดิการหรือโครงการช่วยแก้หนี้ เช่น noburo

ช่วยวางแผนหนี้ใหม่ ทำแผนปลดหนี้ 12 ด่าน และมีสินเชื่อดอกเบี้ยเหมาะสมเพื่อปิดหนี้เดิม ลดดอก ลดภาระ


ไม่อยากติดเครดิตบูโร ควรวางแผนการเงินอย่างไร

  • ทำ งบรายรับ–รายจ่าย และรู้ว่าเงินไหลออกตรงไหน

  • กันเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 3–6 เดือน

  • ใช้บัตรเครดิตอย่างมีวินัย จ่ายเต็มจำนวน

  • ไม่สร้างหนี้ใหม่ที่เกินกำลัง

  • ติดตามสถานะเครดิตของตัวเองปีละครั้ง

  • ใช้ตัวช่วย เช่นแอปวางแผนการเงิน หรือภารกิจในแอป noburo


สรุปได้ว่า

“ติดเครดิตบูโร” ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิตการเงิน แต่เป็นสัญญาณว่าถึงเวลาต้อง จัดระเบียบหนี้ วางแผนใหม่ และปรับวินัยการเงิน

เมื่อเข้าใจแล้วว่า เครดิตบูโรคืออะไร และ เครดิตบูโร มีอะไรบ้าง คุณจะสามารถเช็กสถานะ แก้ไขประวัติ และวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับพนักงานหรือองค์กรที่ต้องการเครื่องมือวางแผนการเงินอย่างเป็นระบบ โปรแกรมของ noburo ก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้ปลดหนี้ได้เร็วขึ้นและยั่งยืนกว่าเดิม


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับติดบูโร

Q: ติดบูโรกี่ปีถึงหลุด?

ข้อมูลค้างชำระจะแสดงย้อนหลัง 36 เดือน แต่ประวัติใหม่ที่ดีช่วยให้คะแนนดีขึ้นแม้ยังไม่ครบ 3 ปี

Q: ถ้าปิดหนี้แล้ว ประวัติจะดีขึ้นไหม?

ดีขึ้นแน่นอน เพราะระบบจะอัปเดตว่า "ปิดบัญชี" และไม่มีค้างอีกต่อไป

Q: ใช้บริการปรับโครงสร้างหนี้จะถูกมองไม่ดีไหม?

ไม่ถือว่าแย่ แต่ธนาคารอาจเห็นว่าเป็นความเสี่ยงระยะสั้น ต้องมีประวัติจ่ายดีต่อเนื่อง

Q: ติดเครดิตบูโรจะกู้ซื้อบ้านได้ไหม?

ได้ หากปิดหนี้ค้างชำระ และสร้างประวัติใหม่ให้ดีประมาณ 6–12 เดือนก่อนยื่นกู้


ความคิดเห็น


bottom of page