top of page

อิคิไก (Ikigai) คืออะไร? ค้นหาความหมายของการทำงานที่ใช่ ในแบบที่ชีวิตไม่พัง

  • รูปภาพนักเขียน: Pichawee Kaewwiset
    Pichawee Kaewwiset
  • 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา
  • ยาว 2 นาที

Highlight

  • อิคิไก คือ "เหตุผลที่ทำให้เราอยากตื่นมาใช้ชีวิต" ไม่ใช่แค่ความฝันลอย ๆ แต่เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย

  • Ikigai เกิดจากความสมดุลของ 4 สิ่ง: สิ่งที่รัก สิ่งที่ทำได้ดี สิ่งที่โลกต้องการ และสิ่งที่สร้างรายได้

  • Ikigai คือ แนวคิดที่ไม่ต้องลาออกตามหาฝัน แต่ช่วยให้ "งานที่ทำอยู่มีความหมายมากขึ้น"

  • องค์กรและ HR มีบทบาทช่วยพนักงานค้นหา Ikigai ผ่านการดูแล Financial Wellbeing และคุณภาพชีวิต

  • เมื่อเข้าใจอิคิไกของตัวเอง การวางแผนชีวิตและการเงินจะชัดขึ้น

อิคิไก (Ikigai) คืออะไร?
อิคิไก (Ikigai) คืออะไร?

 “เราทำงานไปเพื่ออะไร” “งานที่ทำอยู่…ใช่สิ่งที่อยากทำจริงไหม”

ในโลกการทำงานที่เร่งรีบ ความกดดันจากรายได้ หนี้สิน และความคาดหวังรอบตัว ทำให้หลายคนหลงลืมความหมายของการใช้ชีวิตไปทีละน้อย แนวคิด อิคิไก (Ikigai) คำตอบจากญี่ปุ่น จึงกลายเป็นคำตอบของใครหลายคน ที่กำลังมองหา “เหตุผลในการตื่นขึ้นมาใช้ชีวิต” โดยไม่ต้องแลกกับความมั่นคงในชีวิตจริง


อิคิไก (Ikigai) คืออะไร ?

อิคิไก (Ikigai) แปลตรงตัวได้ว่า “เหตุผลของการมีชีวิตอยู่” ไม่ใช่ความฝันลอย ๆ ไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ แต่ Ikigai คือสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่า ชีวิตมีความหมาย งานที่ทำไม่ใช่แค่เพื่อเงินเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่ทำอยู่สอดคล้องกับตัวตนข้างในของเราเอง 

ในมุมของ noburo อิคิไกไม่ใช่การให้ทุกคนลาออกไปตามหาฝัน แต่อิคิไก คือการช่วยให้คนทำงาน“เข้าใจตัวเองมากขึ้น และวางชีวิตให้ไปต่อได้อย่างมั่นคง”


หลักการของอิคิไก (Ikigai)

อิคิไก คือแนวคิดที่ตั้งอยู่บนความสมดุลของ 4 เรื่องสำคัญในชีวิต ได้แก่

  • ใจ (Passion) - สิ่งที่รัก

  • หน้าที่ (Mission) - สิ่งที่โลกต้องการ

  • ความสามารถ (Vocation) - สิ่งที่ทำได้ดี

  • ความมั่นคง (Profession) - รายได้ที่เลี้ยงชีวิตได้จริง

เมื่อทั้ง 4 ส่วนนี้ทับซ้อนกัน เราจะเริ่มรู้สึกว่า “งานที่ทำอยู่…มีความหมาย และชีวิตยังไปต่อได้” นี่คือหัวใจสำคัญของอิคิไกสิ่งที่ทุกคนควรค้นหา


ทฤษฎีของอิคิไก (Ikigai)

ทฤษฎีอิคิไกที่มักถูกอธิบายด้วยวงกลม 4 วงที่ซ้อนทับกัน ได้แก่

  1. สิ่งที่คุณรัก (What you love)

  2. สิ่งที่โลกต้องการ (What the world needs)

  3. สิ่งที่คุณทำได้ดี (What you are good at)

  4. สิ่งที่ทำเงินได้ (What you can be paid for)

อิคิไกจะเกิดขึ้นเมื่อเราไม่ละทิ้งวงใดวงหนึ่ง เพราะถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งมักเกิดผลกระทบบางอย่าง เช่น

  • มีPassion แต่ไม่มีรายได้ → ชีวิตลำบาก

  • มีรายได้ แต่ไม่มีความหมาย → หมดไฟ (Burnout)

  • เก่ง แต่ไม่ได้ใช้เพื่อใคร → รู้สึกว่างเปล่า

วงกลมทฤษฎีอิคิไก 4 วง
วงกลมทฤษฎีอิคิไก 4 วง

วิธีสังเกตและค้นหา อิคิไก (Ikigai) ของตัวเราอย่างไร

การค้นหา Ikigai คือ กระบวนการที่ไม่ใช่การหาคำตอบในวันเดียว แต่คือการค่อย ๆ สังเกตตัวเองอย่างซื่อสัตย์ผ่าน 4 มิติ

สิ่งที่คุณรัก (Passion)

ลองถามตัวเองว่า

  • เรื่องอะไรที่ทำแล้วเพลินจนลืมเวลา

  • เรื่องไหนที่ทำแล้วรู้สึกมีพลัง แม้จะเหนื่อย

Passion ไม่จำเป็นต้องเป็นงานอดิเรกใหญ่โต แต่อาจเป็น

  • การช่วยเหลือคนอื่น การแบ่งปันด้วยเมตตา

  • การแก้ปัญหา ปริศนา หรือการหาแนวทางทางออกสำหรับปัญหาต่าง ๆ 

  • การจัดการ วางแผน หรือสอน ชี้แนะแนวทาง

สิ่งที่โลกต้องการ (Mission)

โลกในที่นี้ อาจหมายถึง

  • องค์กรที่คุณสังกัดอยู่ 

  • ลูกค้าที่คุณต้องนำเสนอ แนวทางให้กับเขา

  • ทีมงาน เพื่อนร่วมงาน ในองค์กร

  • คนรอบตัว เช่น พ่อแม่ เพื่อน พี่น้อง หรือคนรู้จัก

ลองสังเกตว่า

  • คนอื่นมักมาขอให้คุณช่วยเรื่องอะไร เพราะอะไรเขาถึงขอความช่วยเหลือในเรื่องนี้กับคุณ

  • บทบาทของคุณสร้างคุณค่าให้ใครอยู่บ้าง

สิ่งที่คุณทำได้ดี (อาชีพที่เหมาะกับคุณ)

สิ่งที่เราทำได้ดี อาจไม่ใช่สิ่งที่เราชอบที่สุด แต่เป็นทักษะที่สั่งสมมา

  • ความสามารถด้านการสื่อสาร ประสานงาน หรือความสามารถในการถ่ายทอดสื่อ

  • การวิเคราะห์ เชิงตระกะ และเชิงคุณภาพ พิเคราะห์พิจารณา

  • การดูแล ใส่ใจ และพัฒนาคน 

  • การจัดการระบบทรัพยากรณ์ในองค์กร หรือจัดการชีวิตตนเอง

การรู้ว่าตัวเอง “เก่งอะไรจริง” จะช่วยให้เลือกเส้นทางงานที่ไม่ฝืนตัวเอง

สิ่งที่คุณใช้หารายได้ (อาชีพของคุณ)

ความหมายชีวิตจะยั่งยืนได้ ต้องไม่ทำให้ชีวิตพัง รายได้จึงเป็นส่วนสำคัญของอิคิไก

ลองถามตัวเองว่า

  • งานที่ทำอยู่ เลี้ยงชีวิตได้จริงไหม

  • งานที่ทำ ทำให้เรามีความมั่นคงพอจะวางแผนอนาคตหรือเปล่า

ค้นหาอิคิไก (Ikigai) อย่างไร
ค้นหาอิคิไก (Ikigai) อย่างไร

อิคิไก (Ikigai) สำหรับการทำงาน?

อิคิไกไม่ได้แปลว่าทุกคนต้องเปลี่ยนงาน แต่คือการ “ปรับมุมมอง” ให้การทำงานมีความหมายมากขึ้น เช่น

  • เข้าใจว่าหน้าที่ของเราช่วยใครอยู่

  • พัฒนาทักษะที่สอดคล้องกับตัวตน

  • วางแผนชีวิตและการเงินที่ได้รับให้ไปด้วยกัน

องค์กรเองก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้พนักงานค้นหาอิคิไกผ่านการ

  • เปิดพื้นที่ให้พนักงานเติบโต ได้สำรวจและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง

  • ดูแลความเป็นอยู่และความมั่นคงทั้งในมุมของการใช้ชีวิต และการวางแผนการเงิน

  • สร้างงานที่มีคุณค่า ไม่ใช่แค่ KPI เชิงปริมาณเพียงอย่างเดียว

HR กับบทบาทสำคัญในการช่วยพนักงานค้นหา อิคิไก (Ikigai)

หนึ่งในอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้พนักงานไม่สามารถค้นหา อิคิไก คือ ความเครียดทางการเงิน เมื่อต้องกังวลเรื่องหนี้สิน ค่าใช้จ่าย หรือความไม่มั่นคงในชีวิต พนักงานจะไม่มีพื้นที่ทางจิตใจเพียงพอที่จะคิดเรื่อง "ความหมายของงาน" หรือ "เป้าหมายชีวิต" ได้

จากงานวิจัยของ PwC Employee Financial Wellness Survey 2023 พบว่า 1 ใน 3 ของพนักงานยอมรับว่าความกังวลเรื่องการเงินส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน และพนักงานที่มี financial stress มีแนวโน้มที่จะหางานใหม่สูงกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อ Productivity และ Retention ขององค์กร

บทบาทของ HR ในการสร้าง Ikigai ให้พนักงาน

  • ดูแล Financial Wellbeing - ช่วยให้พนักงานปลอดหนี้ มีเงินออม และวางแผนการเงินได้

  • สร้างพื้นที่ให้เติบโต - เปิดโอกาสให้พนักงานพัฒนาทักษะที่สอดคล้องกับความถนัด

  • ออกแบบงานที่มีความหมาย - ให้พนักงานเห็นคุณค่าและผลกระทบของงานที่ทำ

  • สนับสนุน Work-Life Balance - ให้พนักงานมีเวลาสำรวจตัวเองนอกเหนือจากงาน


noburo กับการใช้ Ikigai เพื่อสร้างรากฐานการเงิน และพาพนักงานไปสู่การ “พิชิตหนี้”

ที่ noburo เราเชื่อว่า การดูแลการเงินของพนักงาน ไม่ควรเริ่มจากตัวเลขเพียงอย่างเดียวแต่เริ่มจาก “ความหมาย” และ “แรงขับภายใน” ของแต่ละคน

นั่นคือเหตุผลที่ noburo นำแนวคิด Ikigai มาเป็นหัวใจในการทำงาน ไม่ใช่แค่เพื่อช่วยพนักงานจัดการเงินแต่เพื่อช่วยให้เขาเข้าใจว่า ทำไมเขาถึงอยากมีชีวิตการเงินที่ดีขึ้น Ikigai ของ noburo คือการเป็น Wealth-being Transformational Friendเพื่อนที่เข้าใจทั้งชีวิต การงาน และการเงิน และคอยเดินไปกับพนักงานในเส้นทางการสร้างวินัย และพิชิตภาระหนี้อย่างยั่งยืน

เรานำ Ikigai มาปรับใช้ผ่านการออกแบบประสบการณ์การเรียนรู้และเครื่องมือทางการเงินที่ครอบคลุม 4 มิติหลัก ได้แก่

  • ความรู้ (Head) สร้างกรอบความคิดทางการเงินที่ถูกต้อง ช่วยให้พนักงานเข้าใจสถานการณ์ของตนเอง และเห็นเส้นทางการพิชิตหนี้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน

  • พฤติกรรม (Hand) แปลงความรู้ให้กลายเป็นการลงมือทำจริง ผ่านภารกิจและเครื่องมือที่ช่วยฝึกวินัย เช่น การวางแผนรายรับ-รายจ่าย และการติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง

  • ความรู้สึกและคุณค่าในตัวเอง (Heart) ลดความกดดันและความรู้สึกผิดเกี่ยวกับเงิน สร้างความมั่นใจและ self-esteem ให้พนักงานรู้สึกว่า “ฉันทำได้” และ “ฉันกำลังไปข้างหน้า”

  • ความยั่งยืน (Growth) ไม่ใช่แค่ปลดภาระระยะสั้น แต่สร้างรากฐานทางการเงินที่พร้อมสำหรับอนาคต ทั้งการออม การเติบโต และเป้าหมายชีวิตในระยะยาว


เมื่อพนักงานไม่ต้องแบกรับความเครียดทางการเงินเพียงลำพัง พวกเขาจะมีพลังไปโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญกว่า ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การพัฒนาตัวเอง หรือการค้นหาความหมายในการใช้ชีวิต

สำหรับ noburo การ “พิชิตหนี้” ไม่ใช่จุดจบ  แต่คือจุดเริ่มต้นของการสร้าง Wealth-beingให้พนักงานพร้อมเติบโตไปพร้อมกับองค์กรอย่างแท้จริง

ทำไม Financial Wellbeing จึงเป็นรากฐานสำคัญ?

งานวิจัยจาก SHRM และ Global Wellness Institute พบว่า:

  • องค์กรที่มี Financial Wellness Program มี employee engagement สูงกว่าถึง 2 เท่า

  • 84% ของพนักงานที่เข้าถึง financial wellness resources รายงานว่ามี job satisfaction สูงขึ้น

  • ROI ของ financial wellness programs อยู่ที่ประมาณ $3 ต่อ $1 ที่ลงทุน

  • 66% ขององค์กรบอกว่า financial wellness ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพได้

เมื่อพนักงานไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน พวกเขาจะมีพื้นที่ทางจิตใจในการคิดเรื่องที่ใหญ่กว่า ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาตัวเอง การวางแผนอนาคต หรือการค้นหา Ikigai คืออะไรในแบบของตัวเอง สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้เมื่อมีรากฐานที่มั่นคง

สำหรับ HR ที่ต้องการช่วยลดอุปสรรคในการค้นหา อิคิไก คือ สิ่งที่เริ่มต้นได้จากการดูแล Financial Wellbeing noburo พร้อมเป็นพันธมิตรที่ช่วยให้พนักงานของคุณ "มั่ง-มี-สุข" และมีรากฐานที่พร้อมสำหรับการค้นหาความหมายในการทำงาน


สรุป

อิคิไก (Ikigai) ไม่ใช่คำตอบสำเร็จรูปของชีวิต แต่ Ikigai คือเข็มทิศที่ช่วยให้เราไม่หลงทางระหว่าง “ความฝัน” และ “ความจริง”

เมื่อเราเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่รัก สิ่งที่ทำได้ดี สิ่งที่โลกต้องการ และสิ่งที่เลี้ยงชีวิตได้ เราจะเริ่มออกแบบชีวิตการทำงานที่มีความหมาย ไม่ฝืนตัวเองและไม่ทิ้งความมั่นคงทางการเงิน

เพราะชีวิตที่ดี ไม่ควรต้องเลือกแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ควร “ไปต่อได้ทั้งใจ งาน และชีวิตจริง”


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ อิคิไก (Ikigai)

1) อิคิไก จำเป็นต้องเป็นเฉพาะ “งานในฝัน” ไหม?

ไม่จำเป็นเลย อิคิไกไม่ใช่งานที่สมบูรณ์แบบหรือทำแล้วมีความสุขตลอดเวลา แต่เป็นงานหรือบทบาทในชีวิตที่เรารู้สึกว่ามีคุณค่า มีความหมาย ไปต่อได้ในระยะยาว และไม่ทำให้ชีวิตพังทั้งใจและกาย

2) ถ้ายังไม่รู้ว่าตัวเองมีอิคิไกหรือไม่ ควรเริ่มจากตรงไหน?

เริ่มจากการสังเกตตัวเองในชีวิตประจำวัน เช่น

  • งานหรือกิจกรรมอะไรที่ทำแล้วไม่ฝืน

  • เรื่องไหนที่คนอื่นมักมาขอความช่วยเหลือจากเรา

  • สิ่งใดที่เราทำได้ดีโดยไม่ต้องพยายามมากเกินไป

อิคิไกมักไม่ใช่สิ่งที่ “ค้นพบทันที” แต่ค่อย ๆ ชัดขึ้นจากการลงมือทำและทบทวนตัวเอง

3) ถ้ามีอิคิไกแล้ว แต่รายได้ยังไม่พอ ควรทำอย่างไร?

อิคิไกที่ดีควรค่อย ๆ พัฒนาไปพร้อมความมั่นคง ไม่จำเป็นต้องลาออกหรือเปลี่ยนงานทันที แต่ควรสำรวจและทักษะเสมอ ๆ วางแผนการเงินให้รัดกุม มีเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 3-6 เดือน และลดภาระหนี้ เพื่อให้มีอิสระในการตัดสินใจมากขึ้น

ในมุมของ noburo ชีวิตที่มีความหมาย ต้องไม่แลกกับความเสี่ยงทางการเงินที่เกินตัว วางแผนให้ดีในทุกการตัดสินใจ โดยเฉพาะเรื่องการเงิน 

4) อิคิไกเปลี่ยนไปตามช่วงชีวิตได้ไหม?

ได้ และเป็นเรื่องปกติมากอิคิไกของคนวัยเริ่มทำงาน วัยสร้างครอบครัว หรือวัยใกล้เกษียณ อาจไม่เหมือนกันสิ่งสำคัญคือการทบทวนตัวเองเป็นระยะ และยอมรับการเปลี่ยนแปลงของชีวิต

5) องค์กรและ HRมีบทบาทอย่างไรในการช่วยให้พนักงานค้นหาอิคิไก?

องค์กรและ HR สามารถช่วยได้ผ่านวิธีการ ดังนี้ 

  • เปิดโอกาสให้พนักงานเรียนรู้และเติบโต พัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง

  • ออกแบบงานที่มีความหมาย เสริมแรงอย่างเหมาะสม 

  • ดูแลคุณภาพชีวิตและความมั่นคงทางการเงินของพนักงาน

เพราะเมื่อพนักงานไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน พวกเขาจะมีพื้นที่ในการค้นหา อิคิไกสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้เมื่อพนักงานรู้สึกว่า "ชีวิตไปต่อได้" ทั้งในมุมของงานและการเงิน


ความคิดเห็น


bottom of page